เอปสันชูหลักความยั่งยืน…หัวใจของการบริหารธุรกิจและพัฒนาผลิตภัณฑ์

30 พ.ย., 2020องค์กรธุรกิจ

ตลอดหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ผู้คนหันมานิยมบริโภคสินค้าจากบริษัทผู้ผลิตที่ยึดถือหลักความยั่งยืนในการดำเนินธุกิจ ในขณะที่หลายบริษัทในระดับโลกต่างเริ่มหันมาให้ความสำคัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ดังนั้นการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับความยั่งยืนจึงกลายเป็นจุดเด่นหนึ่งขององค์กรธุรกิจที่ได้รับการยอมรับนับถือในระดับโลก

ด้านผู้บริโภค ในปัจจุบันผู้บริโภคเต็มใจที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะคนกลุ่ม Millennial และ GenZ ที่ไม่ได้มองราคาเป็นปัจจัยในการเลือกซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังมองถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรวมถึงการมีส่วนในการตอบแทนสังคม การที่ผู้ผลิตสามารถแสดงออกถึงบทบาทของบริษัทในการรักษาสิ่งแวดล้อมถือเป็นความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันทางธุรกิจ ที่ไม่เพียงแต่จะรักษาพนักงานไว้กับองค์กร แต่ยังช่วยปกป้องบริษัทจากประเด็นสังคมต่างๆ เพิ่มความน่าเชื่อถือในสังคม ทั้งยังทำให้ผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้าและบริการของบริษัทนั้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

เอปสัน บริษัทผู้คิดค้นเทคโนโลยีพรินเตอร์และโปรเจคเตอร์ระดับโลก ที่เริ่มต้นจากการเป็นโรงงานผลิตนาฬิกาข้อมือเมื่อทศวรรษที่ 1940 โดยยึดถือ “ความซื่อสัตย์และความพยายาม” ตามบุคลิกของผู้ก่อตั้ง นายฮิซาโอะ ยามาซากิ จากที่เคยให้คำมั่นว่าจะรักษาทะเลสาบซูวะ ในจังหวัดนากาโน่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทฯ ให้สะอาดและมีนิเวศที่สมบูรณ์

เอปสันยังเป็นบริษัทแรกในโลกที่ประกาศว่าจะกำจัดสารซีเอฟซีที่ทำลายชั้นโอโซนออกจากกระบวนการผลิตโดยประสบความสำเร็จในปี 2536 ก่อนที่ในปี 2547 จะเข้าร่วมข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และได้ประกาศให้การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติ ปัจจุบันเอปสันยังคงพัฒนาเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ ขนาดกะทัดรัด และมีความแม่นยำสูง เพื่อใช้ขับเคลื่อนนวัตกรรมมากมายที่สามารถเปลี่ยนโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น

เอปสันยึดหลักความยั่งยืน เพื่อรับประกันว่าผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่เกิดขึ้นจะต้องดีต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น ตั้งแต่การวางแนวคิดไปจนถึงเสร็จสิ้นกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์ของเอปสันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยมีการกำจัดสารอันตราย ทั้งยังมีการใช้เทคโนโลยี Heat-Free ในพรินเตอร์อิงค์เจ็ตที่ไม่สร้างความร้อนในกระบวนการพิมพ์ ดังนั้นจึงใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับพรินเตอร์เลเซอร์ รวมถึงการใช้แท็งค์หมึกความจุสูงซึ่งจะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมากในขณะที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

นายซิ่ว จิน เกียต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดประจำภูมิภาค เอปสัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “เอปสันมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานของธุรกิจและขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยเราได้ออกแบบพรินเตอร์อิงค์เจ็ทที่สามารถประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยในปัจจุบัน พรินเตอร์เอปสันมีต้นทุนการพิมพ์เพียง 1 ใน 10 และใช้พลังงานเพียง 1 ใน 8 เมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ แต่ยังสามารถพิมพ์ได้ด้วยความเร็ว 100 หน้าต่อนาที และในอนาคตเรามีแผนที่จะนำเสนอระบบ

รีไซเคิลกระดาษแบบแห้งให้กับทุกสำนักงาน ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีที่สามารถเปลี่ยนกระดาษที่ใช้แล้วให้กลับมาเป็นกระดาษใหม่ได้ในทันที

สำหรับร้านค้าปลีก เอปสันได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้าทำให้สามารถตอบโจทย์ในทุกด้าน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ตลาดด้านอุตสาหกรรมที่ยังต้องพึ่งพิงแรงงานคนเป็นจำนวนมาก เอปสันได้นำเสนอโซลูชั่นหุ่นยนต์แขนกลที่ถูกออกแบบให้มีกระบวนการทำงานที่ละเอียดอ่อนแม่นยำ และสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง หรือในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ที่มีการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบดิจิทัลก็สามารถช่วยผู้ประกอบการลดของเสียจากกระบวนการผลิตได้ถึง 95% พร้อมเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานด้วยการรองรับวัสดุการพิมพ์ได้หลากหลายชนิด

นอกเหนือจากเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ เอปสันยังได้ใช้หลักการเดียวกันในการตั้งเป้าหมายด้านความยั่งยืนกับทุกรายละเอียดในหลักปฏิบัติและวิถีชีวิตประจำวันภายในองค์กร โดยที่สำนักงานและโซลูชั่น

เซ็นเตอร์แห่งใหม่ของเอปสัน ได้มีการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัท เพื่อรองรับการทำงานในแบบ Hybrid Workplace ทั้งยังช่วยลดการใช้ไฟฟ้า ลดการใช้ของสิ้นเปลือง และเพิ่มความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ผ่านผลิตภัณฑ์เอปสันที่หลากหลาย นอกจากนี้ พื้นที่ทำงานยังได้รับการออกแบบให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น มีการกำหนดพื้นที่ทำงานให้พนักงานสามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำงานร่วมกันระหว่างทีมเพื่อสร้างผลงานที่ดีที่สุด

สำนักงานเอปสันทั่วภูมิภาคได้แสดงความรับผิดชอบและมีส่วนร่วมกับการแก้ไขปัญหาสังคมในด้านต่างๆ ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สิทธิมนุษยชน การรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายของบุคลากรในที่ทำงาน และการใช้ทรัพยากรที่คำนึงถึงความยั่งยืนในกระบวนการ

ซัพพลายเชน ตัวอย่างเช่น ที่ประเทศอินโดนีเซีย เอปสันได้ริเริ่มโครงการสนับสนุนนักเรียนรุ่นใหม่ให้เป็นผู้นำชุมชนในการจัดการขยะด้วยวิธี 3Rs ได้แก่ Reduce, Reuse, Recycle ในขณะที่ประเทศฟิลิปปินส์ เอปสันเข้าร่วมโครงการ Juan Bottle at a Time ของชมรมโรตาแรคท์ โดยมอบปัจจัยพื้นฐานสำหรับการจัดการขยะและทำอิฐ Eco-brick กับชุมชนเยาวชนในซานตาอานา กรุงมะนิลา ทั้งยังร่วมกับกรมสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติท้องถิ่นและกลุ่มเยาวชน GREENducation Philippines จัดประกวดภาพยนตร์ เพื่อสร้างความตระหนักแก่สาธารณชนถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ส่วนในประเทศไทยเอง เอปสันได้ร่วมมือกับมูลนิธิสร้างเสริมไทย เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กที่ด้อยโอกาสหรือเด็กพิการ ได้แสดงออกถึงความสามารถด้านศิลปะผ่านการประกวดวาดภาพระบายสี

“ภารกิจของเราคือการสร้างความไว้วางใจให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเอปสัน ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโต ความสำเร็จและสร้างโลกที่ดีขึ้น วิสัยทัศน์สู่ความยั่งยืนในอนาคตของเรา ทำให้เรามุ่งมั่นที่จะลดการก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอน มุ่งให้ความรู้กับสาธารณชน พร้อมทำงานร่วมกับเยาวชน เพื่อสร้างผลลัพธ์ยั่งยืน” นายซิ่ว จิน เกียต กล่าว

 

ติดตามเรา

 

Share This