หุ่นยนต์เอปสันเปลี่ยนไลน์การผลิตได้อย่างไร จากกรณีศึกษาที่ประเทศสิงคโปร์

13 เม.ย., 2019หุ่นยนต์แขนกล

ด้วยการติดตั้งหุ่นยนต์ของเอปสันแค่เพียง 10 ตัว  บริษัท พ็อกเก็ต เทคโนโลยี (Pocket Technology) ผู้ผลิตระดับเอสเอ็มอี จากสิงคโปร์ ก็สามารถที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตงานได้ถึง 3 เท่า ลดข้อผิดพลาดในการทำงาน ทั้งยังช่วยเพิ่มคุณภาพและปริมาณการผลิต  ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เพียงชั่วข้ามคืน

บริษัท พ็อกเก็ต เทคโนโลยี ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ได้ตัดสินใจใช้หุ่นยนต์ตั้งแต่ปี 2015 โดยเลือกใช้หุ่นยนต์ Epson N2 , Epson G Series และได้สร้างเครื่องจักรที่ทำให้ไลน์การผลิตของบริษัทฯ เป็นรูปแบบการผลิตแบบอัตโนมัติ

เจฟฟรีย์ อ่อง เจ้าของพ็อกเก็ต เทคโนโลยี กล่าวว่า “เรารู้ว่ามันคืออนาคต หากเราไม่เริ่มใช้หุ่นยนต์ตั้งแต่ตอนนี้ เราอาจจะประสบกับปัญหาใหญ่ได้”

ส่วนหนึ่งมาจากการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะในด้านหุ่นยนต์ และอีกส่วนมาจากการที่รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศ ให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้แรงงานต่างชาติในธุรกิจ  ซึ่งโชคดีที่หุ่นยนต์ของเอปสันช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้

ด้วยความช่วยเหลือของหุ่นยนต์เอปสันเพียง 10 ตัว บริษัท พ็อกเก็ต เทคโนโลยีสามารถเอาชนะปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้ และยังช่วยยกระดับมาตรฐานและประสิทธิภาพในการผลิตให้ดีขึ้น บริษัทฯ จึงสามารถผลิตงานได้เพิ่มขึ้น มีรายได้เพิ่ม และธุรกิจก็เติบโตขึ้นมาก

หุ่นยนต์ไม่ได้กินค่าใช้จ่ายมากอย่างที่คิด หลังจากที่เจฟฟรีย์ได้ค่อยๆ นำหุ่นยนต์เข้าไปใช้ในไลน์การผลิต โดยที่ไม่ ต้องเสียเวลาปรับตัวมากนัก หุ่นยนต์ใช้พื้นที่ไม่มากในการติดตั้งและยังสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้สะดวก ทำให้ง่าย ในการผสานเข้ากับไลน์การผลิตโดยที่ไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงมากอีกด้วย  

Epson N2 และ Epson G Series ยังทำงานที่สลับซับซ้อนได้อย่างรวดเร็วจนดูเหมือนเป็นงานง่ายๆ อย่างเช่น หุ่นยนต์ N2 มีเทคโนโลยีแขนพับที่ช่วยประหยัดพื้นที่กว่า 40% เมื่อเทียบกับหุ่นยนต์ 6 แกนมาตรฐานทั่วไป และ สามารถขยับได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนมือของมนุษย์ แขนกลของมันพับตัวเองได้ 180 องศา ไปในทิศทางตรงกันข้าม  สามารถเคลื่อนย้ายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งด้วยความแม่นยำ รวมถึงหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้โดย อัตโนมัติในเส้นทางของตัวเอง และสามารถผลิตงานที่มีความซับซ้อนได้ภายในพื้นที่แคบ

เจฟฟรีย์ยังบอกอีกว่า เขาตัดสินใจซื้อหุ่นยนต์ของเอปสันทันทีที่หุ่นยนต์ถูกนำมาถึงที่สิงคโปร์ ไม่สามารถที่จะรอได้ อีกแม้แต่วันเดียว เพื่อที่จะนำไปเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบริษัทฯ ของตน

“มันเหมือนมีมือกังฟูที่สามารถหมุนได้ในมุมที่มือมนุษย์เองยังแทบจะทำไม่ได้ แถมยังทำได้อย่างแม่นยำ พวกมัน เป็นหุ่นยนต์ที่น่าทึ่งมาก และได้รับการออกแบบมาสำหรับตลาดเฉพาะกลุ่มจริงๆ ซึ่งใช้ได้ดีกับธุรกิจที่มีพื้นที่จำกัด”

หุ่นยนต์ N2 สามารถที่จะทำงานได้ในพื้นที่ที่เล็กเพียงแค่ 600 x 600 มม. และยังง่ายต่อการทำงานร่วมกันกับไลน์ การผลิตที่หลากหลาย โดยเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และยังมีความยืดหยุ่นมากพอที่จะประกอบผลิตภัณฑ์หลายชนิดในไลน์ผลิตเดียวกัน

หุ่นยนต์เอปสันยังมี  Vision Guide ระบบการมองเห็นของเครื่องจักรขั้นสูง ที่ทำให้สามารถตรวจจับแยกแยะสี  รูปร่างของวัตถุ และหยิบจับชิ้นงานขึ้นมาในกรณีที่ชิ้นส่วนตกหล่นได้

“มันยังมีราคาที่ถูกกว่าที่คิดไว้ในตอนแรก และแม้ว่าจะมีความสามารถขั้นสูง ก็ใช้งานได้ง่ายมากๆ” เจฟฟรีย์  หมายถึงการใช้งานหุ่นยนต์นั้น  สามารถใช้งานได้ง่ายโดยไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญเรื่องโปรแกรมมาก่อน

“เจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลหุ่นยนต์ตอนนี้ก็ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับโค้ดดิ้งมาก่อน แต่เขาก็สามารถที่จะเรียนรู้วิธีการใช้ งานได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะเมื่อเอปสันส่งคนมาช่วยฝึกสอนให้”

ความง่ายในการใช้งานเป็นข้อดีที่สำคัญสำหรับบริษัทเล็กๆ อย่างพ็อกเก็ต เทคโนโลยี ที่มีพนักงานอยู่ไม่กี่ร้อยคน ในทั่วประเทศ  ซึ่งการค้นหาคนที่มีความสามารถด้านโปรแกรมมิ่งนั้นเป็นเรื่องยาก แต่เอปสันก็ทำให้หุ่นยนต์ง่ายต่อการโปรแกรม จึงสามารถใช้งานได้ง่ายและมีราคาถูกลงจนเอสเอ็มอีสามารถลงทุนซื้อไปใช้งานได้

ปัจจุบัน พ็อกเก็ต เทคโนโลยี มีศักยภาพในการจัดส่งชิ้นส่วน 5 ล้านชิ้นต่อวัน จากโรงงานที่เมืองซู่โจว ประเทศจีน นี่คือความสำเร็จที่ได้มาจากการลงทุนด้านหุ่นยนต์  นอกจากประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มขึ้นแล้ว การใช้หุ่นยนต์ยังช่วยอัพเกรดพนักงานของบริษัทฯ และเปิดโอกาสใหม่ให้แก่ธุรกิจอีกด้วย

เจฟฟรีย์ กล่าวว่า “การนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้เป็นการสร้างโอกาสให้กับพนักงานได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ และได้เข้ามา ช่วยควบคุมหุ่นยนต์  พนักงานหลายคนได้เรียนรู้เรื่องโปรแกรมมิ่ง และการทำงานกับหุ่นยนต์ยังทำให้พวกเขากลายเป็นทรัพย์สินที่มีค่ายิ่งขึ้นของบริษัทฯ”

หุ่นยนต์ช่วยเปิดเส้นทางให้ พ็อกเก็ต เทคโนโลยี ไปสู่บทบาทใหม่ของการเป็น system integrator ที่จะสร้างและโปรแกรมหุ่นยนต์ของเอปสันให้กับลูกค้า

“เราตื่นเต้นมาก  เพราะการซื้อหุ่นยนต์เอปสันทำให้เราได้ขยายเข้าไปสู่งานสร้างเครื่องจักร และได้เข้าไปในโลกที่น่าตื่นเต้นของธุรกิจการบินในฐานะ system integrator  ตอนนี้เราสามารถขยายกระบวนการผลิตของเรา และรับงานด้านอื่นๆ เพิ่มขึ้นจากลูกค้า  ตั้งแต่ที่เราได้เป็น system Integrator ของเอปสันอย่างเป็นทางการ บริษัทฯ ได้ให้ คำปรึกษาแก่ลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่บริษัทด้านการบินไปจนถึงบริษัทด้านอุปกรณ์การแพทย์”

“เราได้สร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มทางด้านระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ด้วยนวัตกรรมอย่าง Epson VT6 และการสนับสนุนจากทีมงานเอปสัน  เรามั่นใจว่า พ็อกเก็ต เทคโนโลยี จะสามารถเดินหน้าสร้างความ สำเร็จอย่างต่อเนื่องและจะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริหารที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าของเราในอนาคตต่อไป” เจฟฟรีย์ ทิ้งท้าย

 

ติดตามเรา

 

Share This