“ดิจิทัล” นิยามแห่งอนาคตของการพิมพ์สิ่งทอ : ​ความสำเร็จของโรงงานผลิตเสื้อผ้า TMI ในเวียดนาม

19 ต.ค., 2018บทความแนะนำ, เครื่องพิมพ์ผ้า, เครื่องพิมพ์และสแกนเนอร์

ปัจจุบันอุตสาหกรรมสิ่งทอถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูงและเติบโตเร็วที่สุดในโลก  เนื่องจากวงจรของแฟชั่นมีระยะเวลาสั้นลงอย่างมาก  รวมถึงเทรนด์ของแฟชั่นที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว  เป็นเหตุให้ “ความเร็ว” ในการผลิตและจัดส่งสินค้าไปถึงยังผู้บริโภคมีความจำเป็นมากกว่าที่ผ่านมา

นายอีย่าย เฉิน เจ้าของและกรรมการผู้จัดการบริษัท Tung Mung International (TMI)  ตระหนักดีว่าปัจจัย สำคัญที่สุดที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคในตลาดปัจจุบัน  นั่นคือ  “ความรวดเร็ว”

“ตลาดมีการเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  เพราะในปัจจุบันผู้บริโภคหันมานิยมซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้นและให้ความสำคัญกับตัวเลือกมากกว่าราคา   ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการความเปลี่ยนแปลงของสไตล์  สี หรือเนื้อผ้าที่นำมาผลิตเสื้อผ้าอยู่เสมอ   และสำหรับเราในฐานะผู้ผลิตเสื้อผ้ารายใหญ่ นั่นหมายถึง ความเร็วในการผลิตต้องสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ในทันที”  

ความเร็วในการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปนั้นจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง  ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการจัดซื้อวัตถุดิบ  การย้อมสีผ้า  กระบวนการพิมพ์และกระบวนการผลิต  ซึ่งรวมไปถึงการตัดเย็บเสื้อผ้าด้วย

นายเฉิน  เริ่มทำธุรกิจของครอบครัว “TMI” ตั้งแต่ปี 2544  จากโรงงานผลิตเสื้อผ้าเล็กๆ ที่มีคนงานแค่ 160 คน ในสิงคโปร์ที่พ่อของนายเฉินตั้งขึ้น  นายเฉินได้ขยายกิจการออกไปยังมาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน กัมพูชา และเวียดนาม  จนทุกวันนี้ TMI กลายเป็นบริษัทผลิตเสื้อผ้าระดับโลกที่มีโรงงานอยู่ถึง 11 แห่ง ใน 3 ประเทศ  สามารถผลิตเสื้อผ้าได้มากกว่า 3.5 ล้านชิ้นต่อเดือน  รวมถึงมีลูกค้าที่เป็นแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำในหลายกลุ่มแฟชั่นตั้งแต่ระดับไฮเอนด์ไปจนถึงแบรนด์กีฬา   นับได้ว่า TMI ในฐานะเป็นผู้นำอีกรายหนึ่งในอุตสาหกรรมด้านแฟชั่นและเป็นผู้กำหนดมาตรฐานใหม่ด้านนวัตกรรม   จึงมีความพร้อมที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในวงการสิ่งทอ  และเพื่อให้ TMI สามารถเผชิญกับความท้าทายในตลาดโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา  นายเฉินได้ ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของ TMI  ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานดั้งเดิมของธุรกิจสิ่งทอที่ปฏิบัติกันมานาน   ซึ่งสิ่งแรกก็คือ การเอาชนะการต่อต้านภายในบริษัท เพื่อเปิดรับนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาดำเนินงาน

เมื่อราว 3-4 ปีก่อน  นายเฉินได้นำเอาการพิมพ์ระบบดิจิทัลบนวัสดุสิ่งทอมาใช้ที่โรงงานของเขา

“กระบวนการพิมพ์ระบบดิจิทัลใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง  ตอนนี้เราสามารถจัดส่งเสื้อผ้าภายในเวลาเพียง 30 วัน หรือ 15 วันก็ยังได้หากลูกค้าต้องการ  รวมถึงเรายังสามารถที่จะจัดส่งสินค้าทั้งหมดได้ตามที่ลูกค้าสั่งออเดอร์  ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องทำฟิล์มพิมพ์ลายผ้าขึ้นมาเลย”

หากเปรียบเทียบกัน  กระบวนการพิมพ์สิ่งทอแบบดั้งเดิมนั้นอาจจะต้องใช้เวลาถึง 30 วัน  ขึ้นอยู่กับชนิดของ กระบวนการการพิมพ์ลายและสีของผ้า  ต้องมีขั้นตอนการพิมพ์ลายลงบนผ้าโดยตรง  รวมไปถึงการเตรียมพรินท์สกรีน  การพิมพ์สีบนเลเยอร์ที่ต่างกัน  การเตรียมการและตัดเย็บผ้า ซึ่งใช้เวลานานถึง 3 เดือน กว่าที่จะพร้อมส่งสินค้าให้กับลูกค้า

การนำระบบการพิมพ์ดิจิทัลมาใช้ในโรงงาน 6 แห่งของ TMI ในเวียดนาม  ภายใต้แบรนด์ Elite นั้น  ทางนายเฉิน ได้เลือกพรินเตอร์ดิจิทัลสำหรับสิ่งทอของเอปสัน รุ่น SureColor SC-F9330 ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์แบบ

Dye-Sublimation ที่มาพร้อมหัวพิมพ์ PrecisionCore แบบคู่  โดยในพรินเตอร์ SureColor F-Series เป็นระบบหมึกแท็งค์แท้ มีคุณภาพการพิมพ์สูงด้วยความเร็วถึง 100 ตารางเมตรต่อชั่วโมง สามารถรองรับการพิมพ์จำนวนมาก  อาทิ เสื้อผ้า สิ่งทอ และ Soft Signage หรืองานพิมพ์บนวัสดุที่เป็นผ้าด้วยระบบดิจิทัลจำนวนมาก รวมไปถึงสินค้าประเภทของชำร่วย  

รวมถึงเครื่องรุ่นนี้มีความเร็วในการพิมพ์เพิ่มขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 28%  ซึ่งตรงกับความต้องการของ TMI เพราะสามารถผลิตเสื้อผ้าเพื่อพร้อมจัดส่งกว่า 3 ล้านชิ้นต่อฤดูกาลได้ในเวลาที่กำหนด   ทั้งยังต้องตอบสนองความต้องการลูกค้าระดับไฮเอนด์และแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาชั้นนำ  ที่จำเป็นต้องใช้เนื้อผ้าและการเคลือบชั้นผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย

นายเฉิน พูดถึงการเลือกเทคโนโลยีการพิมพ์ของเอปสันว่า  เริ่มต้นมาจากความประทับใจแรกในแบรนด์เอปสัน ตั้งแต่สมัยที่เขาเป็นนักเรียน  เขามีโอกาสได้ใช้พรินเตอร์เอปสันที่บ้าน  ซึ่งนายเฉินค้นพบว่ามันเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก  เพราะพรินเตอร์ที่เขาเลือกใช้สามารถช่วยทำให้เขาควบคุมการพิมพ์งานในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้  รวมถึงเรื่องความกลมกลืนของสี  จึงทำให้ได้ผลงานที่ได้มีคุณภาพสูง   และทำให้เขามั่นใจว่าเขาสามารถมอบสิ่งที่แตกต่างให้กับลูกค้าได้

“ผมเห็นเอปสัน SureColor F-Series ในงานแสดงสินค้าที่ประเทศจีน  และเกิดความประทับใจที่เครื่องสามารถพิมพ์งานที่มีความกลมกลืนของสีที่สมบูรณ์แบบ และได้คุณภาพงานที่ดีกว่าแบรนด์อื่นๆ ที่เราใช้อยู่  ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเลือกเอปสัน เพราะเชื่อว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด นอกจากนี้ เรายังได้รับการสนับสนุนและการดูแลที่ยอดเยี่ยมจากเอปสันหลังการติดตั้งอีกด้วย”

นับตั้งแต่เริ่มนำการพิมพ์ระบบดิจิทัลเข้ามาใช้นั้น  ทาง TMI สามารถจัดการกับชนิดของผ้าและกระบวนการผลิตได้ดี   จึงทำให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

นายเฉิน ยังกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบดิจิทัลนั้น  ช่วยทำให้ TMI สามารถเพิ่มกำลังการผลิตโดยรวม ทั้งยังสามารถสร้างผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว  และสามารถรองรับออร์เดอร์ที่มีปริมาณน้อยได้  รวมถึงยังใช้เวลาอันสั้นในการป้อนสินค้าเข้าสู่ตลาดอีกด้วย

“การพิมพ์แบบดิจิทัลทำให้เราสามารถส่งของได้ในระยะเวลาอันสั้น  และทำให้เสื้อผ้าเหล่านี้ไปอยู่ในร้านหรือ
ตู้เสื้อผ้าของลูกค้าในเวลาอันรวดเร็ว  นั่นเท่ากับว่าเป็นการยกระดับประสิทธิภาพทางด้านการผลิต  และช่วยให้เราไปถึงยังวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ในด้านการใช้นวัตกรรม  เพื่อให้เราก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตสิ่งทอที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมสิ่งทอนี้”

“ในความเป็นจริงแล้ว ความก้าวหน้าของยุคดิจิทัล  จะนำพาเราไปสู่เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งทำให้เราไม่ต้องสงสัยเลยว่าอนาคตของการพิมพ์ ก็คือ ดิจิทัล นั่นเอง” นายเฉินกล่าว

 

ติดตามเรา

 

Share This