เทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โซเชียลมีเดียที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้ผู้บริโภคมีอำนาจในการต่อรองสูงมากกว่าที่เคยมี นับวันความคาดหวังของผู้บริโภคในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคา ทางเลือก ความสะดวกและประสบการณ์ที่มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้ดีไซน์เนอร์เองต้องรับมือกับความคาดหวังของลูกค้าด้วยการเสริมความโดดเด่นและความพิเศษเฉพาะตัวลงไปในสินค้าแฟชั่นที่พวกเขาออกแบบขึ้นมา เทคนิคดังกล่าวไม่ใช่แค่เพียงการเติมเต็มความคาดหวังของผู้บริโภค แต่ยังเป็นช่องทางการเพิ่มรายได้และการผูกมัดใจลูกค้าอีกด้วย

การออกแบบสินค้าตามความต้องการของลูกค้าเฉพาะคน หรือที่เรียกว่า Customisation เป็นอีกหนึ่งกระแสที่กำลังมาแรงในวงการแฟชั่นปี 2018 โดยจากผลสำรวจล่าสุดของ Deloitte พบว่า ผู้บริโภคมากกว่าครึ่งสนใจซื้อเสื้อผ้าหรือสินค้าแฟชั่นที่ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษตามความต้องการเฉพาะของพวกเขา

หนึ่งในวิธีพลิกโฉมและสรรค์สร้างสินค้าแฟชั่นสำหรับดีไซน์เนอร์ คือ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความแตกต่าง โดยเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมแฟชั่นต่างหันมาปรับตัว อ้าแขนรับเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่มองเห็นโอกาสและเริ่มเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดด้วยสินค้าและลวดลายใหม่ๆ มากขึ้น

YR Store คือ หนึ่งในผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์ประสบการณ์เฉพาะตัวให้กับลูกค้า ด้วยการติดตั้งตู้คีออสทัชสกรีนที่สาขาในกรุงลอนดอน เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสออกแบบลวดลายของสินค้าที่ต้องการจะซื้อได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืด เสื้อหนาว กระโปรง และอื่นๆ ตามที่พวกเขาชื่นชอบ นอกจากจะสามารถเลือกลวดลายได้แล้วลูกค้ายังสามารถปรับขนาดและสีของลวดลายนั้นได้อีกด้วย และเมื่อกดสั่งซื้อสินค้า ลวดลายต่างๆ จะถูกพิมพ์ด้วยเครื่องพรินเตอร์ Epson F-Series ที่ติดตั้งภายในสาขานั้นๆ โดยลูกค้าสามารถรับสินค้าได้เลย

ริชาร์ด ควิน ดีไซน์เนอร์ชื่อดังชาวอังกฤษ ได้โชว์ผลงานลายผ้าจากการพิมพ์ระบบดิจิทัล ภายในงาน SSE18 London Fashion Week Catwalk ที่จัดขึ้นโดย Liberty London ซึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ว่าการพิมพ์ระบบดิจิทัลได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมแฟชั่น ควินหันมาใช้การพิมพ์ระบบดิจิทัลอย่างจริงจัง ตั้งแต่เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยให้เขาคว้ารางวัล H&M Design Award 2017 โดยตอนนั้นเขาเลือกใช้พรินเตอร์ Epson SureColor
F-Series ในสตูดิโอของเขา ณ กรุงลอนดอน เพื่อใช้อำนวยความสะดวกตลอดกระบวนการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งเรียกได้ว่าเอปสันพรินเตอร์มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มออกแบบไปจนถึงการสร้างสรรค์ผลงานสู่แคทวอล์ค ซึ่งดีไซเนอร์ชาวอังกฤษผู้นี้เชื่อมั่นว่า พรินเตอร์ คือ เครื่องมือที่ทำให้การทดลองทางความคิดเป็นเรื่องง่ายและประหยัด อีกทั้งยังช่วยให้สามารถออกแบบลวดลาย พิมพ์ลาย และผลิตชิ้นงานออกมาเสร็จสิ้นภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงอีกด้วย

ทุกวันนี้ ควินเปิดโอกาสให้ดีไซน์เนอร์คนอื่นเข้ามาใช้งานเครื่องพรินเตอร์ในสตูดิโอของเขา โดยเขาสร้างพื้นที่ในการทำงานที่เปิดกว้างและมีเทคโนโลยีการพิมพ์ระบบดิจิทัล ซึ่งสามารถรองรับทั้งดีไซน์เนอร์มากประสบการณ์และดีไซน์เนอร์หน้าใหม่ที่ต้องการจะเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการพิมพ์ผ้าด้วยระบบดิจิทัล เพื่อนำไปใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานของพวกเขา

ปัจจุบัน ดีไซเนอร์สามารถสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นในรูปแบบเฉพาะตัว สำหรับตลาดขนาดใหญ่ แต่ผลิตได้ในราคาต้นทุนที่ต่ำลง เพราะการพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัลเหนือกว่าระบบอนาล็อกแบบเดิมตรงที่ ดีไซน์เนอร์สามารถออกแบบสินค้ามาตอบรับกระแสตลาดเฉพาะช่วงสั้นๆ ได้ และไม่ว่าลวดลายของผ้าจะเรียบง่ายหรือซับซ้อนเพียงใด การพิมพ์ระบบดิจิทัลยังช่วยให้กระบวนการผลิตเป็นเรื่องง่ายดาย ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสอันไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับธุรกิจแฟชั่นที่จะสามารถจัดตารางการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ นอกจากจะสามารถผลิตสินค้าตามดีไซน์และออร์เดอร์ของลูกค้าเฉพาะคนแล้ว ประโยชน์อีกจุดหนึ่ง คือ ช่วยลดปริมาณสินค้าในสต็อก เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดค่าใช้จ่ายและลดปริมาณของเสียจาการผลิตลงได้

Epson SureColor F-Series คือพรินเตอร์สำหรับงานพิมพ์สิ่งทอที่ได้รับการตอบรับจากธุรกิจแฟชั่นทั่วโลก และเพื่อให้ดีไซน์เนอร์ที่ซื้อเครื่อง SureColor F-Series ได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด เอปสันจึงพิถีพิถันในการออกแบบตัวเครื่องให้พร้อมรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เอปสันจะพัฒนาขึ้นมาในอนาคต มีกระบวนการทำงานที่ไม่ซับซ้อน สามารถผลิตชิ้นงานจำนวนเล็กเล็กหรืองานประเภทสั่งทำพิเศษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เจ้าของประหยัดทั้งเงินและเวลา อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นการทำงานที่ครบเครื่อง สร้างสรรค์สีได้อย่างหลากหลาย และรองรับงานในทุกจินตนาการของดีไซเนอร์ได้อย่างลงตัว

ในที่สุดแล้ว พฤติกรรมของผู้บริโภคย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยบริษัทสินค้าแฟชั่นทั้งหลายต้องหันมาปฏิรูปธุรกิจของตนเองด้วยวิธีการต่างๆ รวมถึงสร้างสรรค์และผลิตสินค้าใหม่ๆ ที่พร้อมจะส่งมอบประสบการณ์ที่มีความพิเศษเฉพาะให้กับลูกค้า ดังนั้นการพิมพ์ระบบดิจิทัลจึงถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยลดต้นทุนด้านการผลิตให้กับเจ้าของธุรกิจ ซึ่งพรินเตอร์เองก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จะช่วยสร้างสรรค์ประสบการณ์แบบพิเศษเฉพาะให้แก่ลูกค้าสินค้าแฟชั่นได้อย่างแท้จริง